ไสยศาสตร์มนดำ มีหลายอย่าง และการกระทำก็มีหลายแบบขึ้นอยู่กับว่าผู้กระทำมุ่งแบบไหน เช่นมุ่งเอาชีวิต ทำให้เจ็บป่วยทรมาน หรือทำให้พิการเป็นอำมพาต ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง ที่เกิดกับเพื่อนผู้เขียนเอง เท่าที่เห็นมาผู้กระทำไม่ได้หมายเอาชีวิต แต่ทำให้เจ็บป่วยทรมาน เสียเงินเสียทอง ดีที่ว่าเขาป่วยไม่นานแล้วได้พบหลวงพ่อท่านรักษาให้ คือแก้ให้ทัน
ส่วนอาการของเขานั้น ภายนอกก็ดูปกติดี เหมือนไม่มีอะไร ทั้งผิวพรรณ ทั้งสีเล็บก็ปกติ แต่เขามักเก็บตัวไม่สุงสิงกับใคร บางครั้งเหม่อลอย และตัวเขาเองบอกว่า จะได้ยินเสียงคนพูดกล่อมในหูตลอดเวลา บางครั้งเป็นเสียงผู้หญิง บางครั้งเป็นเสียงผู้ชาย บ้างด่าเขา บ้างควบคุมให้เขาทำตามที่สั่ง ถ้าไม่ทำตาม เขาก็จะปวดหัวปวดตา เหนื่อย ทรมาน ไปหาหมอก็ได้ยาคลายเคลียด บ้างก็เป็นยาพารา พอกินแล้วก็ปวดทรมานเหมือนเดิม เป็นอย่างงี้ตลอด จนตัวเขาเองทนไม่ไหวบอกให้ญาติพาไปหาพระที่ท่านรักษาด้านไสยสาศตร์ พอดีป้าข้างบ้านแนะนำว่ามีหลวงพ่อท่านมาปักกลด ที่ป่าท้ายหมู่บ้าน ญาติเลยพาผู้ป่วยไปหาหลวงพ่อ
ท่านกำลังสร้างวัด ที่วัดมีพระ 4 รูป พอไปถึงก็แต่งขันห้า คือ มีเทียนห้าคู่ ดอกไม้ห้าคู่ เพื่อให้ท่านดูก่อนว่าป่วยเพราะอะไร พอได้ชื่อวันเดือนปีเกิดแล้วท่านนั่งหลับตาแป็บนึง พอลืมตา ท่านบอกว่าโดนของ เป็นกระดูกผีตายโหง เขาบดใส่น้ำให้กิน ตอนนี้เขาเดินของไปไว้ตามจุดต่างๆแล้ว ดีที่มาทัน จุดที่ว่านั้นมีต้นคอ ตามข้อมือ หัวไหล่ ท้อง สะโพก ที่สำคัญคือศรีษะ ท่านเลยให้ญาติคนป่วยไปหาไข่ไก่มา 4-5 ฟอง พอได้ไข่มาแล้ว ก็ทำพิธีอยู่ครู่นึง แล้วนำไข่ไปโยนเพื่อดูว่าผู้ที่กระทำมานั้น เขาแก่กล้าแค่ไหน ท่านบอกว่าคนที่กระทำมาเขารู้ตัวแล้ว แปลกมากทั้งที่ไข่นั้นญาติคนป่วยที่มาด้วยกันเป็นคนไปซื้อมาเอง และเป็นไข่ดิบ พอหลวงพ่อท่านโยนขึ้นสูงๆ ตกลงมากับไม่แตก ท่านว่าถ้าโยนถึง 7 ครั้งแล้วไข่ไม่แตก จะไม่ถอนเพราะทางนู้นเขาแข็งกว่า แต่สำหรับของเพื่อนผมแล้ว โยนถึงเจ็ดครั้ง ครั้งที่เจ็ดแตกพอดี ท่าน อุทานว่า " แข็งมาก! " เหงื่อท่านโทรมกาย แล้วท่านเอาไข่ 3 ฟอง มากลิ้งไปตามตัวของผู้ป่วย ตามแขน ตามขา ที่ท้อง แล้ววนรอบหัว พอเสร็จแล้วก็เคาะไข่ให้ดู ใบแรก มีเล็บมือ ใบที่สองเห็นเป็นกระดูกเท่าปลายนิ้วก้อยมีเลือดติดมาด้วย ซึ่งตอนนั้นกระดูกยังสั่นอยู่ ท่านห้ามว่า " อย่าไปแตะ มันยังไม่ตาย " ซักพัก กระดูกก็หยุดดิ้น คือถ้าไปแตะตอนที่มันยังดิ้นอยู่ กระดูกก็จะเข้าไปในร่างคนนั้น ท่านบ่น " คนเราใจทำด้วยอะไรทำได้ถึงขนาดนี้ " จากนั้นท่านก็กันให้ พอเสร็จแล้วก็กลับบ้าน
พอกลับมาถึงบ้านอาการก็ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ แต่เพื่อนก็ไปหาท่านบ่อยๆไปอาบน้ำมนต์ บ้างก็ไปทำความสะอาดเสนาสนะ.. หลังจากนั้นมาเพื่อนเล่าให้ฟังทีหลังว่า ตอนที่ท่านกลิ้งไข่ไปตามตัวตามหัวนั้น เจ็บมากรู้สึกเหมือนกับว่าไข่กำลังดูด และมีอะไรไม่รู้เย็นๆร้อนๆ ไหลจากส่วนต่างๆของร่างกายไหลเข้าไปในไข่
นี่แหละครับกระดูกผีตายโหง ตอนกินเข้าไปเป็นน้ำ แต่พอถอนออกมาเป็นก้อน มีหลายรายเหมือนกันที่เจอกระดูกผีตายโหง บางคนเขาเอากระดูกไปฝังไว้หลังบ้าน คนในบ้านคุ้มดีคุ้มร้าย บางวันพากันฟ้อนรำทั้งบ้าน ดีที่มีคนพาไปหาหมอที่เขารักษาทางด้านนี้ทัน เขาดูแล้วว่าเป็นกระดูกผีถูกฝังในบริเวณบ้าน เขามาขุดก็เจอ คนในบ้านนั้นอาการก็ดีขึ้นเป็นปกติ อีกราย ขัดแย้งเรื่องที่ทำกินอยู่บ้านติดกันมีกำแพงกั้น เวลาเขาทำ เขาก็ขุดหลุมไปใต้ฐานกำแพงล้ำเข้าไปในเขตบ้านอีกหลังนึง แล้วนำกระดูกผีตายโหงยื่นเข้าไปในเขตบ้านนั้น จากนั้นมาคนในบ้านก็ป่วย เทียวรักษาเทียวหาหมอตลอด...
คนทุกวันนี้ ผิดใจกันนิดหน่อยเขาก็ทำ บ้างก็เป็นญาติพี่น้อง ทำกันเอง เพียงเพราะฉโนดที่ดินใบเดียว ...