เป็นเรื่องที่ยายเล่าให้ฟังเลยนำมาเล่าต่อ เมื่อตอนที่ยายเป็นสาวรุ่นอายุ 17 ปี ท่านได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ซึ่งปัจจุบันท่านได้ย้ายมาอยู่ที่ อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ซึ่งสมัยก่อนการเดินทาง ถ้าไม่เดินเท้าก็ใช้เกวียนหรือไม่ก็ขี่ม้า รถยังไม่มีเหมือนปัจจุบัน ท่านได้เดินทางไปกับพี่ชายและได้มาพักค้างคืนที่บ้านงิ้ว อ.วาปีปทุม โดยพักที่วัด ซึ่งวัดอยู่นอกหมู่บ้านและมีทางที่ชาวบ้านใช้สัญจรผ่านวัด โดยยายพักที่ศาลาหลังเตี้ย ใต้ถุนศาลาเป็นคอกม้า ท่านนอนตรงบันไดขึ้นศาลาพอดี
ในคืนนั้นฝนตกแรงมาก ตกนานพอสมควร พอฝนเริ่มซาลงก็มีแสงไฟดวงนึง เข้าใจว่าเป็นแสงไฟของชาวบ้านเขาไปหาจับกบจับเขียด แสงไฟเลื่อนมาช้าๆ แล้วมาหยุดที่บันไดขึ้นศาลา คุณพระช่วย!..ที่เห็นนั้นไม่ใช่ชาวบ้านแต่เป็นพระ เป็นพระไม่มีหัว ห่มจีวรมือถือเทียน ท่านตกใจมากจะร้องก็ร้องไม่ออก จะเรียกพี่ชายหรือหลวงพ่อก็ไม่กล้า (ท่านเรียกผีพระนั้นว่าผีเผต(เปรต)) ขณะที่ผีนั้นกำลังก้าวขึ้นบันได ตอนนั้นท่านนึกอะไรไม่ออกนึกได้อย่างเดียวคือ นะโมตัสสะ พอท่องจบแรก ผีนั้นหยุดแล้วยืนนิ่ง พอจบสอง แสงเทียนเริ่มอ่อนลง พอจบสาม แสงเทียนดับวูบลงพร้อมกับร่างนั้นหายไปด้วย จากนั้นมาไม่มีอะไรมารบกวนอีก จนเช้าท่านจึงเล่าให้พี่ชายและหลวงพ่อฟัง ท่านว่าคงเป็นพระที่ทำผิดในขณะบวชเลยได้รับทุกข์อย่างนี้....
..นี่แหละครับ อานุภาพของ นะโม.....
สาธุคับ
ตอบลบ